▂▃▅▆█♫ WELCOME to TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.♫◤ยินดีต้อนรับเข้าสู่ TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.◥ ...♥Miss You So Much♥ ...█▆▅▃▂

Tuesday, May 31, 2016

Relations between ideas

SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU


Relations between ideas

          ในภาวะปัจจุบันที่อิทธิพลของโลกาภิวัฒน์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และยังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นการเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่นย่อมได้เปรียบในการทำกิจการต่างๆ เพราะคงไม่มีใครจะติดต่อสื่อสารและรู้เรื่องได้ดีเท่ากับการพูดภาษาเดียวกัน เคยมีเรื่องเล่ากันเล่นว่าประเทศไทยที่ค้าขายสิงคโปร์ มาเลย์ ฮ่องกง ใต้หวัน ไม่ได้ก็เพราะว่ามาติดต่อกับประเทศไทยแล้วสื่อสารกันยังไม่ชัดเจนจึงต้องผ่านตัวแทนที่รู้ภาษาดีกว่าเช่นสิงค์โป มาเลย์ ฮ่องกง ใต้หวัน หรือแม้แต่ฟิลิบปินก็ตาม  ซึ่งเราจะเห็นว่าประเทศเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่อาจคิดได้ว่าเป็นภาษาสากล หลายประเทศประกาศให้เป็นภาษาราชการอีกภาษาหนึ่ง นอกจากภาษาของตัวเอง
          ก่อนที่เราจะลงมือเขียนได้ เราต้องรู้จักหลักการเขียน Essay กันก่อน
          1. Planning :
·       เมื่อทราบหัวข้อในการเขียน Essay แล้ว ขั้นตอนแรก คือ การจัดระบบความคิด กำหนดกรอบเนื้อหา โดยต้องตัดสินใจว่าจะพูดเกี่ยวกับอะไรบ้าง และพูดอย่างไร โดยเนื้อหา ที่คิดว่าจะพูดเหล่านั้น ต้องไปด้วยกันได้และไม่หลงประเด็นออกนอกเรื่อง

          2. Drafting :
·       ขั้นตอนที่สอง ต้องนำกรอบเนื้อหาที่ตัดสินใจว่าจะเขียนจากในข้อ 1 มาลองร่างดู ให้เกิดเป็นเค้าโครงคร่าวๆของ Essay ขึ้น โดยมีการเรียงลำดับให้เค้าโครงเนื้อหาเหล่านั้นดู กลมกลืนลื่นไหล ไม่กระโดดไปกระโดดมา

          3. Writing :
·       ขั้นตอนที่สามอันสำคัญยิ่ง คือ การลงมือเขียน Essay ตามที่ได้ร่างเอาไว้  ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนต่างๆของ Essay จะกล่าวไว้ในหัวข้อถัดไป

          4. Editing :
·       ขั้นตอนที่สี่ เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขั้นตอนที่สาม เนื่องจากเป็นขั้นตอนของการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ตรวจทานให้ Essay ที่เราเขียนมี ความสมบูรณ์มากที่สุด

        1. Introduction : เป็นย่อหน้าแรกของ Essay ใช้ในการเปิดเรื่อง Introduction ที่ดี ควรจะสามารถดึงดูดใจให้ผู้อ่านสนใจและอยากจะอ่าน Essay ของเราต่อจนจบ โดยภายใน Introduction มี Thesis Statement ซึ่งเป็นประโยคสำคัญที่บอกให้ผู้อ่านทราบว่า Essay เรื่องนี้ต้องการจะกล่าวอะไร หรือพูดอีกอย่างก็ คือ เป็นประโยคที่บอก Main Idea ของ Essay นั่นเอง

        2. Body : ย่อหน้าถัดไปของ Essay เป็นส่วนของเนื้อหาที่เราต้องการจะกล่าวเพื่อสนับสนุน Thesis Statement หรือ Main Idea ของเรา โดย Body ของ Essay จะมีเหตุผลสนับสนุนอยู่ 3 ข้อ เสมอ เป็นประเพณีนิยมของการเขียน Essay 

                2.1 Supporting Idea 1 : เหตุผลสนับสนุนข้อ 1 การเขียนจะเริ่มด้วยประโยคสรุปใจความสำคัญ (Topic Sentence) จากนั้นจึงอธิบายเหตุผลสนับสนุนนั้นๆให้เข้าใจชัดเจน และอาจมีการยกตัวอย่างประกอบเพื่อความเข้าใจ
                2.2 Supporting Idea 2 : เหตุผลสนับสนุนข้อ 2 วิธีการเขียนเช่นเดียวกับ เหตุผลสนับสนุนข้อ 1
                2.3 Supporting Idea 3 : เหตุผลสนับสนุนข้อ 3 วิธีการเขียนเช่นเดียวกับ เหตุผลสนับสนุนข้อ 1
                              โดย Supporting Idea ทั้ง 3 ข้อ จะต้องมีเอกภาพ (Unity) พูดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสนับสนุน Main Idea ใน Thesis Statement ที่กล่าวในย่อหน้าแรก และต้องเรียง Supporting Idea ทั้ง 3 ข้อ ตามลำดับให้กลมกลืนเหมาะสม อ่านแล้วไม่สะดุด

        3. Conclusion : ย่อหน้าสุดท้ายของ Essay เป็นการสรุปสิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด โดย Conclusion ที่ดีควรเน้นย้ำ Thesis Statement หรือ Main Idea ให้เกิดความชัดเจนในใจของผู้อ่าน ไม่เขียนออกนอกเรื่อง และอย่าลืมที่จะทิ้งท้ายให้เกิดความประทับใจ

TITLE
Thesis Statement or Introduction
Main Idea 1 or Topic Sentence
Supporting Idea
Supporting Idea
Main Idea 2 or Topic Sentence
Supporting Idea
Supporting Idea
Main Idea 3 or Topic Sentence
Supporting Idea
Supporting Idea

          Relationship between ideas are title, thesis statement, main idea and supporting idea. It shows relations between them from big too small.  The thesis statement relates directly to the title.  The main ideas relate to thesis statement. The supporting ideas and details give explanations, examples and evidence to develop the main ideas.
          ภาษาอังกฤษ ความหมายที่เป็นที่เข้าใจในขั้นต้นก็เป็นเพียงเรื่องของทางราชการและภาคธุรกิจเอกชนเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเพียงเท่านี้ก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของการทำงานในโลกปัจจุบันอยู่แล้ว แม้จะหมายความเพียงว่าเป็นการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารระหว่างกันในการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ตลอดจนองค์กรและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทว่าความหมายของบทบัญญัติที่ให้ภาษาอังกฤษสำหรับการทำงานร่วมกันนั้นมีความหมายกว้างไกลไปถึงทุกส่วนของประชาคม นอกเหนือจากภาษาประจำชาติหรือภาษาประจำถิ่นของแต่ละชาติแต่ละชุมชนเอง เพราะไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นที่จะต้องไปมาหาสู่ร่วมประชุมปรึกษาหารือและสื่อสารกัน และไม่เฉพาะนักธุรกิจและคนทำมาค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้นที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและการติดต่อธุรกิจระหว่างกัน เราจึงต้องมีความมุ่งมั่นในการเรียนให้มากที่สุด

http://tipapron2284.blogspot.com/2013/12/the-five-paragraph-essay.html
http://www.kwanmanie.com/writing-easy-essay-structure/

No comments:

Post a Comment