▂▃▅▆█♫ WELCOME to TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.♫◤ยินดีต้อนรับเข้าสู่ TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.◥ ...♥Miss You So Much♥ ...█▆▅▃▂

Friday, September 18, 2015

Adjective Clauses และ Adjective Phrases : 8th September, 2015.

SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU

Adjective Clauses และ Adjective Phrases
8th September, 2015.

          หากถามว่าทำไมถึงควรรู้ภาษาอังกฤษ คำตอบคือเพราะการรู้ภาษาอังกฤษเพียงหนึ่งภาษา คุณสามารถติดต่อสื่อสารผู้คนบนโลกนี้ได้กว่าพันล้านคนซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมาจากประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา และด้านอื่นๆของสังคมโลกในยุคปัจจุบันอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ภาษาอังกฤษยังเป็นภาษาหลักที่คนต่างชาติต่างภาษานิยมใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างประเทศกันมากที่สุด จนหลายคนนิยามภาษาอังกฤษว่าเป็นภาษานานาชาติ (International Language) หรือ ภาษาสากล (Global Language) ทุกวันนี้มีประเทศต่างๆกว่า 50 ประเทศทั่วโลกได้ประกาศให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ  อีกทั้งองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ ก็ยังให้ภาษาอังกฤษเป็น 1 ในภาษาหลักสำหรับการสื่อสาร ดังนั้น เราจึงต้องศึกษาในเรื่องของภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไวยากรณ์
Adjective phrase (คุณศัพท์วลี) คือกลุ่มคำที่มี adjective เป็นคำหลักและอาจมีส่วนขยายอยู่ด้วย อาจจะประกอบด้วย adjective ตัวเดียวโดด ๆ หรืออาจจะมีส่วนขยายข้างหน้าที่เรียกว่า premodifier และส่วนขยายข้างหลังที่เรียกว่า postmodifier มีคำ adjective เป็นคำหลักของ Phrase นอกจากนี้ยังหมายรวมถึง Phrase อื่นๆที่ทำหน้าที่เสมือน Adj. อีกด้วย

John is very intelligent.
จอห์นเป็นคนที่มีไหวพริบปฏิภาณดี

I am relieved that nobody was hurt.
ฉันรู้สึกโล่งอกที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

She is absolutely impervious to criticism.
หล่อนไม่ครั่นคร้ามต่อคำวิพากษ์วิจารณ์

That food is good to eat.
อาหารนั้นมีประโยชน์ที่จะรับประทาน

Sam is a man with a kind nature.
แซมเป็นชายที่มีนิสัยโอบอ้อมอารี
        Adjective Clause (คุณานุประโยค) คือ ประโยคนั้นทั้งประโยคทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ (Adjective) ขยายนามที่อยู่ข้างหน้าของมัน ซึ่งลักษณะของ Adjective Clause นั้นจะต้องขึ้นต้นประโยคด้วยคำต่อไปนี้ คือ which, where, when, why, who, whom, whose, of which, that และอาจจะขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ด้วย คือ as(เช่นเดียวกันกับ), but(ผู้ซึ่งไม่), before(ก่อนวันที่), after(หลังจากวันที่)  และหน้าคำเหล่านี้ต้องเป็นคำนามด้วย (หากหน้าคำเหล่านี้เป็นคำกริยา ไม่ใช่นาม ประโยคนั้นก็จะเป็นประโยค Noun Clause ไป

                   He reads the book which I gave him.
                   = I reads the book I gave him.
เขาอ่านหนังสือที่ผมได้ให้เขาไป

The police never found the money which was stolen in the robbery.
= The police never found the money stolen in the robbery.
ตำรวจไม่เจอเงินซึ่งถูกขโมยไปในคดีโจรกรรม

Do you know the woman who talks to Jenny?
= Do you know the woman talking to Jenny?
คุณรู้จักผู้หญิงที่คุยอยู่กับเจนนี่รึเปล่า?

I was woken up by a siren which is going off.
= I was woken up by a siren going off.
ฉันถูกปลุกให้ตื่นโดยเสียงไซเรนที่กำลังผ่านไป

The lady who wears a red dress is coming toward us.
= The lady in a red dress is coming toward us.
ผู้หญิงในชุดสีแดงกำลังมาหาพวกเรา

ไวยากรณ์ไม่มีอะไรยากหรือง่ายจนเกินไป มันเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ถ้าลงมือทำ วิธีการคือควรเริ่มเรียนรู้จากอันง่าย ๆ ทำความเข้าใจจากระดับพื้นฐาน หรือระดับเบสิก ส่วนใหญ่ที่เห็นว่าไวยากรณ์เป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามแต่ถ้าเราลองทำแล้วคิดว่ามันยากเกินกำลัง ก็ให้หาสิ่งที่เราคิดว่าเราพอเรียนรู้เรื่อง แล้วก็ทำความให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยทำในสิ่งที่มันยากขึ้นไป วันหนึ่งหากเราไปถึงยอดเขาและมองลงมา เราก็จะมองเห็นถึงความพยายามที่เราได้ทำมาอย่างภาคภูมิใจ

http://sakiyah-phrase.blogspot.com/
http://slideplayer.in.th/slide/2086436/
http://www.whatami.net/ms/bic4.html
http://ภาษาอังกฤษออนไลน์.com/ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ-ไม่ยากเด้อ/
http://dariina113.blogspot.com/2011/02/adjective-phrase.html
http://ilovegrammarenglish.blogspot.com/2013/10/blog-post.html
http://vichakarn.triamudom.ac.th/comtech/studentproject/final54/833eng/Content/11-12/Participle.pdf
SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU

No comments:

Post a Comment