SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
การแปลบันเทิงคดี
ภาษาอังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนไทย และคนทั่วโลกไปแล้ว
มนุษยชาติทุกวันนี้สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ
ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันโดยตรง การใช้อินเตอร์เน็ต การดูทีวี
การดูภาพยนตร์ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หนังสือคู่มือทางด้านวิชาการต่างๆ ฯลฯ
บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกมาในปัจจุบัน
ถ้ามีความรู้ภาษาอังกฤษทั้งพูดและเขียนเสริมเข้าไปด้วยอีก
โอกาสที่จะหางานก็จะไม่จำกัดแค่ในประเทศไทย เท่านั้น ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
เราคงจะไม่ปฏิเสธได้ถึงสิทธิพิเศษที่เรามีเหนือคนอื่นที่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
ซึ่งเราก็ต้องมีความมุ่งมั่นในการเรียน โดยเฉพาะนักศึกษาคณะครุศาสตร์ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการแปล
โดยเฉพาะในเรื่องของการแปลบันเทิงคดีเป็นงานเขียนที่ไม่อยู่ในงานวิชาการและสารคดี
เช่น นิทาน นวนิยาย เรื่องสั้น บทกวี ฯลฯ เป็นงานรูปแบบหนึ่งที่ว่าด้วยสารสนเทศหรือเหตุการณ์ซึ่งมิใช่ข้อเท็จจริง
แต่เป็นจินตนาการหรือทฤษฎีบางส่วนหรือทั้งหมด กล่าวคือ
เป็นงานที่ผู้ประพันธ์แต่งขึ้น
แม้บันเทิงคดีจะใช้หมายถึงสาขาหลักของงานวรรณกรรมอย่างหนึ่ง แต่ยังอาจหมายถึง งานละคร
ภาพยนตร์หรือดนตรีด้วย บันเทิงคดีตรงข้ามกับสารคดี ซึ่งว่าด้วยเหตุการณ์ คำอธิบาย
การสังเกตที่เป็นจริง (หรืออย่างน้อย ที่สันนิษฐานว่าเป็นจริง) เช่น ชีวประวัติ
ประวัติศาสตร์
1. องค์ประกอบของงานเขียนแบบบันเทิงคดี
· สารคดีแตกต่างจากบันเทิงคดีเนื้อหานำเสนอสาระจริง
แต่บันเทิงคดีให้ความบันเทิง มีสาระ อาศัยจินตนาการของผู้ประพันธ์ล้วนๆ
· องค์ประกอบสำคัญ
2 ประการ คือ ด้านภาษา (language
element) และไม่ใช่ภาษา
(non-language
element) (อารมณ์และท่วงทำนอง)
2. องค์ประกอบด้านภาษา
2.1 ความหมายแฝง (connotation)
· ประกอบด้วยคำศัพท์ที่มีความหมายตรงตัว
หรือตามตัวอักษร (denotation) เช่น ไก่ = หญิงสาวอ่อนต่อโลก
· ผู้แปลต้องให้ความใส่ใจต่อคำศัพท์ทุกตัว
ต้องพิจารณาคำศัพท์ไปทีละตัว
2.2 ภาษาเฉพาะวรรณกรรมหรือโวหารภาพพจน์
· เป็นรูปแบบเฉพาะที่ใช้ในบันเทิงคดี
· เป็นการสะท้อนวัฒนธรรมต่าง
ๆ เช่น
2.2.1
รูปแบบของโวหารอุปมาอุปไมย (simile)
· Simile เป็นการ"เปรียบเหมือน"
· คือ
การสร้างภาพพจน์โดยใช้กลวิธีเปรียบเทียบเพื่อชี้แจง เช่น ดัง ดั่ง.
The soldier
is as brave as a lion.
โวหารทั้งในไทยและอังกฤษมักเกี่ยวกับการเปรียบเทียบทั้งสองประเภท
2.2.2
รูปแบบของโวหารอุปลักษณ์ (metaphor)
· Metaphor เป็นการ"เปรียบเป็น"
· เป็นการเปรียบเทียบความหมายของของสองสิ่งโดยนำความเหมือนและความไม่เหมือนของสิ่งที่จะเปรียบเทียบมากล่าว
เช่น เงินตราคือพระเจ้า
·
สำนวนอุปลักษณ์เกิดจากความสามารถของนักประพันธ์ จึงต่างจาการแปลทั่วไป
2.2.3
การแปลโวหารอุปมาอุปไมยและโวหารอุปลักษณ์
2.
ถ้าไม่สำคัญตัดทิ้งได้เลย
3. งานเขียนแบบ authoritative
text ให้อธิบายความหมายตามเชิงอรรถ
4. สืบค้นในงานเขียนต่าง
ๆ อาจใช้โวหารคิดใหม่หรือของเดิมก็ได้
สำหรับการเรียนภาษาอังกฤษนั้นเราจะไม่เข้าถึงได้เลย ถ้าเราไม่รู้ภาษาอังกฤษ
ระบบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนของไทยเราอาจจะบอกว่า
ประเทศไทยเราก็ให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว
แต่ทำไมคนไทยถึงพูดภาษาอังกฤษสู้คนฟิลิปปินส์ไม่ได้เลย
นั่นก็เพราะว่าหลักสูตรภาษาอังกฤษของกระทรวงศึกษาธิการของเรายังไม่ได้เน้นการพูดภาษาอังกฤษ
จะเน้นแต่หลักไวยากรณ์ คำแปล
และการอ่านเพื่อความเข้าใจและให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็นส่วนใหญ่
สิ่งที่จะต้องปรับปรุงอย่างมากในระบบการเรียนภาษาอังกฤษของไทยเราคือ
การเน้นการพูดออกเสียง ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงพยัญชนะแต่ละตัว
การเน้นเสียงหนักเบา ซึ่งจะต้องมีสื่อช่วยสอนที่เป็นมัลติมีเดีย คือ มีทั้งภาพ
เสียง และตัวหนังสือ ให้ด้วย
เราจึงควรตระหนักและตั้งใจเรียนวิชาภาษาอังกฤษให้มากยิ่งๆขึ้นไป
https://th.wikipedia.org/wiki/บันเทิงคดี
http://www.engbitbybit.com/2014/08/simile-vs-metaphor.html
No comments:
Post a Comment