SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
FRANKENSTEIN
“แฟรงเกนสไตน์กับตำนานผีดิบคืนชีพ”
Mary Shelly
วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์นำชิ้นส่วนศพมาประกอบเป็น "มนุษย์คืนชีพ" ได้สำเร็จ ทว่าสิ่งที่ได้กลับกลายเป็นปีศาจร้ายผู้น่าสะพรึงกลัว จนใครๆ ต่างวิ่งหนี และเพียงไม่นาน มันจึงเรียนรู้ที่จะเกลียด และฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า
ตำนานผี
แฟรงเก็นสไตน์
เป็นผีอินเตอร์ที่เป็นที่รู้จักไม่แพ้กับท่านเคาท์แดร๊คคูล่า
แวมไพร์ ซอมบี้ มนุษย์หมาป่า หรือมัมมี่
ประวัติความเป็นมา
แฟรงเก็นสไตน์ไม่ใช่ชื่อของผีดิบสุดขี้เหร่
และมีน็อตโผล่ออกมาจากขมับข้างศีรษะทั้งสองข้างแต่อย่างใด
แต่ชื่อนี้เป็นชื่อของนายแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ก่อร่างสร้างตัวมันขึ้นมา
ซึ่งนั่นก็คือ ดร.แฟรงเก็นสไตน์ นั่นเอง ส่วนในหนังสือที่ แมรี่ เชลลี่ย์
ประพันธ์เอาไว้ เธอกลับเรียกเจ้าผีดิบหน้าตาไม่หล่อตัวนี้ว่า “มอนสเตอร์” ( Monster ) หรือที่แปลว่า อสูรกาย เดิมทีเจ้าแฟรงเก็นสไตน์ไม่ได้มีฐานะเป็นบารอน
แต่ตำแหน่งที่สูงส่งนี้ได้มาในตอนหลังที่นิยายเรื่องดังกล่าวถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ
และเพื่ออยากจะให้ท่านบารอนแฟรงเก็นสไตน์เป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีกับท่านเคาท์
แดร๊คคูล่า
เนื้อเรื่องในภาพยนตร์จึงถูกดัดแปลงและต่อเติมซะแทบจะไม่มีเค้าโครงของเรื่องเดิมเหลืออยู่เลย
เจ้าผีดิบแฟรงเก็นสไตน์ตัวนี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งอาศัยการผ่าตัดสมอง เปลี่ยนชิ้นส่วน ของอวัยวะ
ตัดๆและเย็บๆไปทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะรอยเย็บตามใบหน้า
ที่เป็นเหตุผลให้เจ้าผีดิบร้ายตัวนี้มีหน้าตาที่ค่อนข้างอัปลักษณ์และไม่หล่อเหล่าอย่างเคาท์แดร๊คคูล่า
และด้วยความที่เจ้าผีดิบแฟรงเก็นสไตน์มีหน้าตาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเช่นนี้
จึงช่วยเพิ่มความน่ากลัวสยดสยองให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
จุดกำเนิดของนิยายสยองขวัญแฟรงเก็นสไตน์
ผู้สรรค์สร้างเจ้าผีดิบแฟรงเก็นสไตน์ตัวนี้ขึ้นมา
ก็คือ แมรี่ เชลลี่ย์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์วัยรุ่นสาวสวย ที่มีอายุเพียง 20 ปีเศษๆ และเธอเป็นภรรยาของ เปอร์ซี่ เชลลี่ย์
ซึ่งเป็นยอดกวีที่แต่งนิยายโรแมนติก ผู้เป็นเพื่อนคนสนิทของท่านลอร์ดไบรอน
ยอดกวีชื่อดังเรื่องนิยายรัก เรื่องราวของผีดิบตนนี้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ
เมื่อศิลปินทั้งสามได้เดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกันที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
แต่ในช่วงเวลาที่ทั้งสามคนไปเที่ยวกลับมีภูมิอากาศอันแสนเลวร้าย
ทำให้พวกเขาอดออกไปชื่นชมดินแดนอันแสนงดงาม และต้องนั่งจับเจ่าอยู่แต่ในบ้านพักแทน
ระหว่างที่ไม่มีอะไรทำ
ทั้งสามจึงชวนกันแต่งนิยายผีสยองขวัญกันขึ้นคนละหนึ่งเรื่องเพื่อแก้เซ็ง
ซึ่งมีเพียงแมรี่เชลลี่ย์
ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถแต่งนิยายเรื่องผีดิบแฟรงเก็นสไตน์ ขึ้นมาได้จนจบเรื่อง
และตั้งแต่วันนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1816 หรือ พ.ศ. 2359 นิยายเรื่องดังกล่าวก็มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั่วโลกตราบจนถึงทุกวันนี้
อิทธิฤทธิ์ของแฟงเก็นสไตน์
ผีดิบแฟรงเก็นสไตน์เป็นผีดิบที่มีวัตถุประสงค์การสร้างเหมือนกับผีดิบทั่วไป
นั่นคือ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำตามคำสั่งของเจ้านาย
ผีดิบแฟรงเก็นสไตน์เป็นผีที่มีพละกำลังมากมายมหาศาล
สามารถทำงานได้ต่อเนื่องแบบไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย
แม้จะไม่มีอาหารหรือเลือดพลังของมันก็ไม่มีวันหมดไปเลย อีกทั้งยังยิง แทง
หรือฟันไม่เข้าเหมือนกับลงยันต์เอาไว้
วิธีต่อสู้และป้องกันเจ้าแฟรงเก็นสไตน์
เนื่องจากผีดิบแฟรงเก็นสไตน์ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์
มันจึงไม่เกรงกลัวไม้กางเขน กระเทียม พระเครื่อง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใด
แต่ถ้าโดนอาวุธขนาดใหญ่อย่างจรวดหรือขีปนาวุธเข้าอย่างจัง
ก็คงไม่เหลือชีวิตกลับมาได้เหมือนกัน
การถ่ายทอดหรือการรักษาเผ่าพันธุ์
ผีดิบแฟรงเก็นสไตน์ไม่ได้ถูกสร้างจากสิ่งมีชีวิต
การขยายพันธุ์ของมันจึงแตกต่างออกไปจากผีตัวอื่นๆ
ผีดิบแฟรงเก็นสไตน์อาจจะขยายเผ่าพันธุ์โดยการนำศพมาผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ
แต่ก็ยังคงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น
เพราะยังไม่มีใครรับรองได้ว่าการใช้วิธีผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะจะทำให้คนตายฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้งได้
แต่คาดการณ์ว่าอาจจะมีการทดลองอย่างลับๆอยู่อย่างต่อเนื่อง
http://www.tumnandd.com/ตำนานผี-แฟรงเก็นสไตน์-frankenstein/
Chapter 1
ตอนที่ 1
“กัปตัน! มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนน้ำแข็ง ดูทางโน้นสิ”
กะลาสีที่ยืนบนยอดเสาเรืออยู่สูงเหนือกัปตันพูดขึ้น
มือของกะลาสีผู้นั้นชี้ไปไกลอีกหลายไมล์ที่บนพื้นน้ำแข็งบนทะเลนั่น
กัปตันมองไปที่ทิศเหนือที่กะลาสีผู้นั้นชี้
เขาจึงได้เห็นบางสิ่งบางอย่างกำลังวิ่งพุ่งตรงมาที่เรืออย่างรวดเร็ว เขาหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดู เขาเห็นสุนัข 10 ตัว กำลังลากเลื่อนหิมะขนาดยักษ์อยู่บนน้ำแข็ง และเห็นคนบังคับเลื่อนซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตผิดแปลกจากคนทั่วๆ
ไป
เลื่อนนั่นวิ่งเข้าใกล้ทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือ 1 ใน 4 ไมล์ ที่จะถึงเรือได้ และถึงตอนนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อมองคนบังคับเลื่อนที่มีรูปร่างใหญ่ยักษ์มหึมานั่นอีกแล้ว
ทันใดนั้นเอง
เลื่อนได้วิ่งเข้าไปข้างหลังภูเขาน้ำแข็งและหายไป และในขณะเดียวกันก็มีเลื่อนปรากฏขึ้นอีก 1 คัน มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเฉกเช่นเลื่อนคันแรก
และเห็นได้ชัดว่ากำลังไล่ตามรถเลื่อนคันแรกไป แต่คนที่บังคับเลื่อนนี้ตัวเล็กกว่า เขาตัวเล็กเหมือนกับคนทั่วๆ ไป สุนัขของรถเลื่อนนั้นวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้น เลื่อนคันที่ 2 ก็หายไปด้านหลังภูเขาน้ำแข็งนั่นอีก
2 ชั่วโมงผ่านไป เลื่อนทั้ง 2 ก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นอีก
ไม่มีอะไรที่เคลื่อนไหวบนน้ำแข็งนั้นอีกแล้ว ไม่นานเวลาค่ำคืนก็มาถึง และในคืนนั้นก็มีพายุ ในตอนเช้า
เหล่ากะลาสีก็เห็นน้ำแข็งก้อนใหญ่หลายก้อนลอยอยู่รอบๆ เรือ ทันใดนั้น
กะลาสีบนเสาเรือก็ตะโกนขึ้นอีกว่า
“กัปตัน! ผมเห็นคนบนน้ำแข็งนั่น”
กะลาสีชี้ไปยังน้ำแข็งก้อนหนึ่งที่ลอยอยู่ใกล้เรือ ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนน้ำแข็ง และใกล้ๆ กันก็มีเลื่อนที่พังอยู่ ชายผู้นั้นใกล้ตายเพราะหนาว ไม่สามารถที่จะเคลื่นไหวได้ กะลาสีจึงแบกเขาไปหากัปตันอย่างระมัดระวัง กัปตันพูดกับเขาว่า
“ยินดีต้อนรับสู่เรือของฉัน
ฉันเป็นกัปตันเรือนี้
และชื่อของฉันคือ โรเบิร์ต วอลตัน”
“ขอบคุณ กัปตันวอลตัน” เขาพูด
“ผมชื่อแฟรงเกนสไตน์ วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์”
จากนั้น
เขาก็หมดสติไปและไม่พูดอะไรต่ออีก
2 วันที่ผ่านมา
เขาแข็งแรงมากพอที่จะพูดคุย
กัปตันจึงได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของเขา
“ผมพยายามไล่ตามคนๆ หนึ่ง”
แฟรงเกนสไตน์พูด
“มันเป็นเหตุที่ทำให้ผมต้องเดินทางไกลมาถึงทางเหนือบนน้ำแข็งนี้”
“พวกเราเห็นคุณไล่ตามเขาอยู่”
กัปตันพูด “เขารูปร่างใหญ่โตกว่าคนทั่วไป เราเห็นเลื่อนของเขา มันนำหน้าคุณไปเมื่อคืนก่อนที่จะมีพายุ”
“ผมดีใจมากที่คุณเห็นเขา”
แฟรงเกนสไตน์พูด
“บางทีนั่นอาจทำให้คุณเชื่อเรื่องของผมมากยิ่งขึ้น”
ในหลายวันมานี้
กัปตันก็ทำงานบนเรือของเขา
ส่วนแฟรงเกนสไตน์ก็เขียนเรื่องราวของเขา
และในแต่ละคืน
เขาก็อ่านในสิ่งที่เขาเขียนให้กัปตันได้ฟัง
นี่เป็นเรื่องราวที่
วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ เขียนขึ้น
No comments:
Post a Comment