SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
Chapter 7
ตอนที่ 7
เรื่องราวของตัวประหลาด
1
หลังจากที่ผมออกจากห้องแลบ
ผมก็หนีออกมาอยู่ที่ชนบทนอกเมือง ต่อมาผมก็รู้สึกหิวและกระหายเป็นอย่างมาก และอาหารที่ผมทานเป็นสิ่งแรกก็คือผลไม้ที่ผมหามาได้จากต้นไม้ข้างๆ
แม่น้ำ ผมดื่มน้ำจากแม่น้ำ และล้มตัวลงนอน
ในตอนแรก
ตาและหูของผมใช้งานได้ไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มๆ ดีขึ้น
วันหนึ่งหิมะได้ตกลงมา แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเดินอยู่ท่ามกลางหิมะ
(ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้น) และผมก็ได้ค้นพบว่ามันทำให้เท้าของผมเย็นมาก
ผมตระหนักได้ว่าผมต้องการอาหาร และที่ที่ทำให้ผมอบอุ่นขึ้นกว่านี้ ต่อมา
ผมได้พบกับกระท่อมเล็กๆ 1 กระท่อมที่มีชายแก่ๆ อยู่คนหนึ่ง ชายแก่คนนั้นกำลังทำอาหารเช้าด้วยกองไฟ
เมื่อชายแก่นั้นเห็นผม เขาก็ตะโกนเสียงดัง และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเท่าที่เขาจะเร็วได้
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ผมแค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับกองไฟ จากนั้นผมก็นั่งลงอยู่ท่ามกลางความอบอุ่น
และกินอาหารเช้าที่ชายแก่คนนั้นทำไว้ ต่อมา ผมก็เดินตัดผ่านทุ่งโล่งนานหลายชั่วโมง
จนกระทั่งผมได้ไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผมเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านนั้น
แต่ในบ้านนั้นมีเด็กๆ อยู่ เขากรีดร้องเมื่อเห็นผม ส่วนแม่ของพวกเขาก็เป็นลม
ผู้คนในหมู่บ้านจึงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนวิ่งหนีไปเมื่อเจอผม บางคนก็ตะโกนและปาก้อนหินใส่ผม
พวกเขาจะฆ่าผม ผมเจ็บอย่างมากแต่ผมก็ต้องหนี ผมหนีไปที่ชนบทที่โล่งกว้าง
ต่อมา
ผมก็ได้พบกับกระท่อมเปล่าที่สร้างติดกับกำแพงบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง ผมกลัวที่จะเข้าไปในบ้านหลังจากที่ได้เกิดปัญหานั่นในหมู่บ้าน
ผมจึงเข้าไปซ่อนในกระท่อมแทน มันปลอดภัยสำหรับผม มันทำให้ผมหายหนาว และหลีกหนีจาผู้คนที่ต้องการจะทำร้ายผม
และต่อมา ผมก็ได้พบหลุมเล็กๆ
ที่อยู่ในกำแพงระหว่างกระท่อมและบ้านหลังนั้น
เมื่อลอดผ่านหลุมนั้นไปผมก็ได้พบกับห้องห้องหนึ่งที่อยู่ถัดจากกระท่อม มีคน
3 คนอยู่ในบ้านหลังนั้น คือ เด็กสาวผู้งดงาม ชายชรา และเด็กหนุ่ม
วันแล้ววันเล่าผมเฝ้ามองพวกเขาทั้ง 3 ผมเฝ้ามองความเอาใจใส่ที่พวกเขามีให้แก่กันและกัน
ผมอยากจะเข้าไปในบ้านนั้น และใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา แต่ผมรู้ว่ายังไงผมก็ต้องอยู่ในกระท่องหลังนี้ต่อไป
ผมไม่ลืมที่ผู้คนในหมู่บ้านนั้นทำให้ผมเจ็บปวดเมื่อผมได้เข้าไปในบ้าน
ในทุกๆ คืน เมื่อพวกเขานอนหลับ
ผมจะขโมยอาหารของพวกเขามากิน แต่ต่อมา ผมก็ได้รู้ว่าชายชราคนนั้นตาบอด และผมก็ได้ตระหนักว่าบ่อยครั้งที่พวกเขาก็ไม่มีอาหารมากพอที่จะกินกันเอง
ผมเห็นว่าเด็กๆ ตักอาหารให้แก่ชายชรามากเป็นพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะหิวก็ตาม
เมื่อเห็นดังนั้นผมจึงเลิกที่จะขโมยอาหารของพวกเขา
ชีวิตของพวกเขานั้นยากจน ผมกลับไปหาผลไม้ป่ามากิน ผมพยายามช่วยพวกเขาด้วยวิธีต่างๆ
ในแต่ละคืน
ผมก็จะไปตัดไม้ทำฟืนเพื่อพวกเขา และแอบเติมฟืนเหล่านั้นในตอนที่เด็กหนุ่มนั่นตัดฟืนช่วงกลางวัน
ผมดีใจอย่างมากที่ได้เห็นว่าเขาพอใจแค่ไหน
หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดกัน
คำแรกที่ผมเข้าใจก็คือ ‘ไฟ’ และ ‘ขนมปัง’ ผมได้เรียนรู้ชื่อที่พวกเขาเรียกกัน
เด็กผู้หญิงชื่อว่า ‘อกาธา’
ชายหนุ่มคนนั้นชื่อ ‘ฟิลิกซ์’
และชายชราผู้นั้นเราเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ผมพยายามที่จะเลียนเสียงที่พวกเขาทำ
และหลังจากนั้นผมก็ค่อยๆ พูดได้อย่างช้าๆ
เด็กสาวและชายหนุ่มนั้นช่างงดงาม
วันหนึ่ง ผมได้เห็นหน้าตัวเองบนน้ำในแม่น้ำ
มันช่างเป็นใบหน้าที่น่าหวาดกลัว
ผมเข้าใจในทันทีว่าทำไมผู้คนถึงได้กลัวผม และเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้ตะโกน
และขว้างปาก้อนหินใส่ผม ผมรู้ในทันทีว่าผมไม่สามารถเอาหน้าไปพบเหล่าผู้คนที่งดงามได้
พวกเขากลัวใบหน้าและร่างกายที่น่าสยดสยองของผม
หน้าร้อนได้เข้ามาถึง ผมกลับไปเฝ้ามองและเรียนรู้ ผมกลับไปช่วยพวกเขาตลอด คอยทำงานให้พวกเขาในยามค่ำคืน พวกเขาประหลาดใจเสมอเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่ผมทำไว้
ผมได้ยินที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับ
‘คนดี’ ที่ได้สร้างสิ่งที่ ‘ยอดเยี่ยม’
แต่ว่าครอบครัวนั้นก็ยังเศร้าอยู่บ่อยๆ
และผมหวังว่าผมจะทำให้พวกเขามีความสุขได้บ้าง ผมตั้งตาคอยวันที่ผมจะสามารถพูดกับพวกเขาได้ และผมมีความสุข
เพราะผมแน่ใจว่าต่อไปผมจะได้มีเพื่อนที่ดีอย่างพวกเขาทั้ง 3 คน
No comments:
Post a Comment