▂▃▅▆█♫ WELCOME to TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.♫◤ยินดีต้อนรับเข้าสู่ TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.◥ ...♥Miss You So Much♥ ...█▆▅▃▂

Saturday, November 14, 2015

FRANKENSTEIN “แฟรงเกนสไตน์กับตำนานผีดิบคืนชีพ”, Mary Shelly (Chapter 7)

SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU


Chapter 7
ตอนที่ 7
เรื่องราวของตัวประหลาด 1

             หลังจากที่ผมออกจากห้องแลบ ผมก็หนีออกมาอยู่ที่ชนบทนอกเมือง ต่อมาผมก็รู้สึกหิวและกระหายเป็นอย่างมาก  และอาหารที่ผมทานเป็นสิ่งแรกก็คือผลไม้ที่ผมหามาได้จากต้นไม้ข้างๆ แม่น้ำ ผมดื่มน้ำจากแม่น้ำ และล้มตัวลงนอน
            ในตอนแรก ตาและหูของผมใช้งานได้ไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มๆ ดีขึ้น
            วันหนึ่งหิมะได้ตกลงมา แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเดินอยู่ท่ามกลางหิมะ (ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้น) และผมก็ได้ค้นพบว่ามันทำให้เท้าของผมเย็นมาก ผมตระหนักได้ว่าผมต้องการอาหาร และที่ที่ทำให้ผมอบอุ่นขึ้นกว่านี้ ต่อมา ผมได้พบกับกระท่อมเล็กๆ 1 กระท่อมที่มีชายแก่ๆ อยู่คนหนึ่ง ชายแก่คนนั้นกำลังทำอาหารเช้าด้วยกองไฟ เมื่อชายแก่นั้นเห็นผม เขาก็ตะโกนเสียงดัง และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเท่าที่เขาจะเร็วได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ผมแค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับกองไฟ จากนั้นผมก็นั่งลงอยู่ท่ามกลางความอบอุ่น และกินอาหารเช้าที่ชายแก่คนนั้นทำไว้ ต่อมา ผมก็เดินตัดผ่านทุ่งโล่งนานหลายชั่วโมง จนกระทั่งผมได้ไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผมเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านนั้น แต่ในบ้านนั้นมีเด็กๆ อยู่ เขากรีดร้องเมื่อเห็นผม ส่วนแม่ของพวกเขาก็เป็นลม ผู้คนในหมู่บ้านจึงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนวิ่งหนีไปเมื่อเจอผม บางคนก็ตะโกนและปาก้อนหินใส่ผม พวกเขาจะฆ่าผม ผมเจ็บอย่างมากแต่ผมก็ต้องหนี ผมหนีไปที่ชนบทที่โล่งกว้าง
            ต่อมา ผมก็ได้พบกับกระท่อมเปล่าที่สร้างติดกับกำแพงบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง  ผมกลัวที่จะเข้าไปในบ้านหลังจากที่ได้เกิดปัญหานั่นในหมู่บ้าน ผมจึงเข้าไปซ่อนในกระท่อมแทน มันปลอดภัยสำหรับผม มันทำให้ผมหายหนาว  และหลีกหนีจาผู้คนที่ต้องการจะทำร้ายผม
            และต่อมา ผมก็ได้พบหลุมเล็กๆ ที่อยู่ในกำแพงระหว่างกระท่อมและบ้านหลังนั้น  เมื่อลอดผ่านหลุมนั้นไปผมก็ได้พบกับห้องห้องหนึ่งที่อยู่ถัดจากกระท่อม มีคน 3 คนอยู่ในบ้านหลังนั้น คือ เด็กสาวผู้งดงาม ชายชรา และเด็กหนุ่ม
            วันแล้ววันเล่าผมเฝ้ามองพวกเขาทั้ง 3  ผมเฝ้ามองความเอาใจใส่ที่พวกเขามีให้แก่กันและกัน ผมอยากจะเข้าไปในบ้านนั้น และใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา แต่ผมรู้ว่ายังไงผมก็ต้องอยู่ในกระท่องหลังนี้ต่อไป ผมไม่ลืมที่ผู้คนในหมู่บ้านนั้นทำให้ผมเจ็บปวดเมื่อผมได้เข้าไปในบ้าน
            ในทุกๆ คืน เมื่อพวกเขานอนหลับ ผมจะขโมยอาหารของพวกเขามากิน แต่ต่อมา ผมก็ได้รู้ว่าชายชราคนนั้นตาบอด  และผมก็ได้ตระหนักว่าบ่อยครั้งที่พวกเขาก็ไม่มีอาหารมากพอที่จะกินกันเอง ผมเห็นว่าเด็กๆ ตักอาหารให้แก่ชายชรามากเป็นพิเศษ แม้ว่าพวกเขาจะหิวก็ตาม
            เมื่อเห็นดังนั้นผมจึงเลิกที่จะขโมยอาหารของพวกเขา ชีวิตของพวกเขานั้นยากจน ผมกลับไปหาผลไม้ป่ามากิน ผมพยายามช่วยพวกเขาด้วยวิธีต่างๆ ในแต่ละคืน  ผมก็จะไปตัดไม้ทำฟืนเพื่อพวกเขา และแอบเติมฟืนเหล่านั้นในตอนที่เด็กหนุ่มนั่นตัดฟืนช่วงกลางวัน ผมดีใจอย่างมากที่ได้เห็นว่าเขาพอใจแค่ไหน
            หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดกัน คำแรกที่ผมเข้าใจก็คือ ‘ไฟ’ และ ‘ขนมปัง’ ผมได้เรียนรู้ชื่อที่พวกเขาเรียกกัน เด็กผู้หญิงชื่อว่า  ‘อกาธา’ ชายหนุ่มคนนั้นชื่อ  ‘ฟิลิกซ์’ และชายชราผู้นั้นเราเรียกเขาว่า ‘พ่อ’  ผมพยายามที่จะเลียนเสียงที่พวกเขาทำ และหลังจากนั้นผมก็ค่อยๆ พูดได้อย่างช้าๆ
            เด็กสาวและชายหนุ่มนั้นช่างงดงาม วันหนึ่ง  ผมได้เห็นหน้าตัวเองบนน้ำในแม่น้ำ มันช่างเป็นใบหน้าที่น่าหวาดกลัว  ผมเข้าใจในทันทีว่าทำไมผู้คนถึงได้กลัวผม และเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้ตะโกน และขว้างปาก้อนหินใส่ผม ผมรู้ในทันทีว่าผมไม่สามารถเอาหน้าไปพบเหล่าผู้คนที่งดงามได้ พวกเขากลัวใบหน้าและร่างกายที่น่าสยดสยองของผม
            หน้าร้อนได้เข้ามาถึง ผมกลับไปเฝ้ามองและเรียนรู้ ผมกลับไปช่วยพวกเขาตลอด  คอยทำงานให้พวกเขาในยามค่ำคืน พวกเขาประหลาดใจเสมอเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่ผมทำไว้ ผมได้ยินที่พวกเขาพูดเกี่ยวกับ  ‘คนดี’  ที่ได้สร้างสิ่งที่  ‘ยอดเยี่ยม’

            แต่ว่าครอบครัวนั้นก็ยังเศร้าอยู่บ่อยๆ และผมหวังว่าผมจะทำให้พวกเขามีความสุขได้บ้าง ผมตั้งตาคอยวันที่ผมจะสามารถพูดกับพวกเขาได้  และผมมีความสุข  เพราะผมแน่ใจว่าต่อไปผมจะได้มีเพื่อนที่ดีอย่างพวกเขาทั้ง 3 คน

No comments:

Post a Comment