SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
Learning
Log
การฝึกทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเรียนไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระดับไหน
ตัวของผมได้มีการฝึกทักษะต่าง ๆ มากมายจากหลายๆ
แหล่งทำให้ผมนั้นมีความรู้พื้นฐานที่มากขึ้น ผมย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่น ๆ เพราะผมได้มีการเตรียมตัวมามากกว่าและมีเวลาที่ยาวนานกว่า
ส่งผลให้ผมนั้นมีการใช้ภาษาอังกฤษที่คล่อง ชำนาญมากยิ่งขึ้น
การฝึกทักษะทางด้านนี้ก็คงต้องมีการดำเนินต่อไป
13 ตุลาคม 2558
การพูดแนะนำตนเอง : https://youtu.be/w7Ms6JmQDhA
o
A:
Hello, my name is Sam.
o
เฮ็ลโล
มายเนม อิส แซม
o
สวัสดี
ชื่อ ของผม คือ แซม (ผมชื่อแซม)
o
B:
Hey, I’m Jane.
o
เฮ้
ไอม เจน
o
หวัดี
ฉัน คือ เจน (ฉันชื่อเจน)
o
A:
Nice to meet you.
o
ไนซ
ทุ มีท ยู
o
ยินดี
ที่ได้ พบ คุณ (ยินดีที่ได้รู้จัก)
o
B:
Nice to meet you, too.
o
ไนซ
ทุ มีท ยู ทู
o
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ เช่นกัน (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)
- Hello ใช้ได้กับคนทั่วไป
- Hey ความหมายเหมือนกัน Hi แปลว่า หวัดดี
เป็นคำทักทายประสาเด็กๆหรือวัยรุ่น
- Nice ความหมายทั่วไปหมายถึง ดี แต่ในที่นี้ให้แปลว่า ยินดี
- Nice to meet you เป็นการกล่าวแสดงความยินดีที่ได้รู้จักกัน ตามธรรมเนียมอันดีงาม
ถึงจะเป็นสิ่งที่ง่ายแต่ผมก็ได้ทราบถึงการใช้ของคำทักทายพื้นฐานที่ได้รู้ว่าเราควรใช้กับบุคคลไหน
ระดับไหน ทำให้เรามีการใช้ภาษาที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
14-15 ตุลาคม 2558
ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ของระดับการศึกษาต่างๆ
เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการเรียนในห้องเรียน ได้ใช้คำศัพท์ตรงตามที่กำหนดไว้ได้
Nursery / Day Care
Center / Preschool / Pre-kindergarten: โรงเรียนเด็กก่อนวัยเรียน,
สถานรับเลี้ยงเด็ก
Kindergarten:
อนุบาล
Pre-elementary
school: เตรียมประถม
Primary School /
Elemantary School: โรงเรียนระดับประถมศึกษา
Grade 1-6: ชั้น ป. 1 - ป. 6
Secondary School /
High School: โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
Grade 7-12: ชั้น ม. 1 - ม. 6
Middle School
(Grade 6-8): ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
(เทียบเท่า)
Junior High School: ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
Senior High School: ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
Vocational
Certificate: ปวช. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพ)
High Vocational
Certificate: ปวส. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง)
Technical
Certificate: ปวท. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค)
Non-Formal
Education: การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.)
Compulsory
Education: การศึกษาภาคบังคับ
Adult Education: การศึกษาผู้ใหญ่
Technical College: วิทยาลัยเทคนิค
Polytechnic School: วิทยาลัยสารพัดช่าง
B.A. (Bachelor of
Arts): ปริญญาตรี
M.A. (Master of
Arts): ปริญญาโท
Ph.D.
(Doctor of Philosophy): ปริญญาเอก
16-19 ตุลาคม 2558
ผมยังคงสับสนในเรื่องของโครงสร้าง Tense อยู่
ดังนั้นผมจึงค้นหาวิธีที่จำง่ายที่สุด ได้ความว่า
ช่องแรกคือ Simple
ง่ายสุดเลย
• Present Simple เป็นแบบที่เราเรียนกันมาง่ายๆ เลย “Sub + V1” (เติม s/es
เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)
• Past Simple ก็ง่ายอีก “Sub + V2” ไปเลย ในเมื่อ V2 มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีตอยู่แล้ว
• Future Simpleเอา “Sub + will + Vinf” โดยที่คำว่า will แปลว่า "จะ" มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf
ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆ
ทั้งสิ้น หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1
นั้นแหละ เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู้น จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ “will
+ verb” ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้อีก เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไร แค่นั้นพอครับ
***ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I
will eating. I will eaten. ผิดทันที!***
ช่องที่สองคือ
Continuous
รูปประโยคของมันจะเป็น V. to be + Ving
(Verb
to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ คือ
ที่ท่องกันมานั้นแหละ)
"มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน
มันก็เป็น V.to be + Ving โดยที่เราผันตัว V.to
be ไปตามเวลาของมัน แต่ Ving คงเดิมตลอด
เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ Ving"
• Present
Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!
แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ
เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm
said....ผิดทันที
• Past
Continuous รูปประโยคแบบเดิมแต่เราผันตัว is/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปซะ ก็จะได้เป็น Sub + was/were + Ving
• Future
Continuous พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ “will” มาบอกว่าเรา
"จะทำ" แล้วหลัง will มันต้องไม่เปลี่ยน
ไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น “Sub + will + be + Ving” และ “be”
ตรงกลางนั่นก็มาจาก V. to be ไง
จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
ช่องถัดมาคือ
Perfect
รูปของมันจะเป็น V. to have + V3
(ที่ดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ยากเลย)
"มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน
มันก็เป็น V.to have + V3 โดยที่เราผันตัว V.to
have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอด
เพราะตัวที่บอกความเป็น Perfect คือ V3"
• Present
Perfect ก็เลยเป็น "Sub + has/have + V3"
ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He, She,I t, คน สัตว์ ของ 1 อัน)
ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You, We,
They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"
• Past Perfect
แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น
ช่อง 2 เพราะ V2 คือ V ที่บอกอดีต
แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น
"Sub + had + V3"
• Future
Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม
ได้เป็น "Sub + will + have + V3" เพราะหลัง will
บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา ไม่เติม
ไม่เปลี่ยน เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้ Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future อีกต่างหาก
***และใช้ have
อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has จำซะว่าเราเน้นบอกว่ามันเป็นอนาคต
ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็
perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had..... หรือ will v3..... ผิดทันที!***
สุดท้ายก็คือ Perfect
Continuous
"ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Perfect
Continuous มันก็เลยต้องมีทั้ง Perfect คือ have
+ V3 แล้วก็ Continuous ก็คือ Ving ด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub + V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง 3 ของ be)
+ Ving"
• Present
Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น "Sub +
has/have + been + Ving" โดย has/have been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous จับมาต่อกัน
• Past Perfect
Continuous จับ has/have มาทำเป็นอดีต
ที่เหลือไม่ต้องเปลี่ยน ก็ได้เป็น “Sub + had + been + Ving” ซึ่ง had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบ!
• Future
Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้
will เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง
will เป็น have เท่านั้น
เราก็เลยได้ว่า “Sub + will + have + been + Ving” โดย wil
บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect
แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous !
***ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ใช้***
will + has + been + Ving ผิดทันที!
will + been + Ving ผิดทันที!
will + have + be + Ving ผิดทันที
!
เว็บไซต์นี้มีวิธีการจำโครงสร้างของกาลที่ผิดแปลกออกไป
ทำให้ผมนั้นเกิดความเข้าใจ ไม่ต้องมานั่งจำให้เหนื่อย และเกิดความกระจ่างในเรื่องของโครงสร้างของ
Tense ได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษอังกฤษนั้น
เราต้องมีความพยายาม มีความรับผิดชอบที่จะฝึก
สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้ประโยชน์อีกมากมาย
การเตรียมตัวที่ดีส่งผลให้เรามีการเรียนรู้ที่ยิ่งขึ้น
ผมจะต้องเป็นนักศึกษาที่มีคุณภาพในอนาคตให้ได้ ทำให้ทุกๆคนภูมิใจในตัวผม
เป็นคุณครูที่มีประสิทธิภาพอย่างภาคภูมิในในอนาคต
http:// ภาษาอังกฤษออนไลน์.com/hello-การทักทาย-และแนะนำตัวเอง/
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121241&Html=1&TabID=1&#Commenttab
http://www.dek-eng.com/2389/คำศัพท์ภาษาอังกฤษ/ศัพท์ภาษาอังกฤษ-ทั่วไป/คำศัพท์ภาษาอังกฤษ-เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา-(Education-Vocabulary).html
SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
No comments:
Post a Comment