SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
คุณธรรมต่างๆ และ If Clause
22nd
September, 2015.
ภาษาอังกฤษปัจจุบันคือภาษานานาชาติ
เป็นภาษากลางของโลก ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของมนุษยชาติ เป็นภาษาที่มนุษย์บนโลกใช้ติดต่อระหว่างกันเป็นหลัก
ไม่ว่าแต่ละคนจะใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาประจำชาติ
เมื่อต้องติดต่อกับคนอื่นที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรมกันทุกคนจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ทุกชาติทุกภาษาจึงบรรจุวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองรองลงมาจากภาษาประจำชาติ
เป็นแกนหลักของหลักสูตรการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ปฐมวัยไปจนถึงการศึกษาตลอดชีวิต และหากพูดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม
ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพราะเราจะต้องพัฒนาให้เป็นไปทั้งด้านจิตใจ
และสมอง ทำให้เราเป็นคนที่เพียบพร้อม และพัฒนาไปได้จนถึงที่สุด และตลอดไป
สำหรับคุณธรรม
จริยธรรม หลักในการเป็นนักศึกษาที่ดี เรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งขึ้นนั้น
เราจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า เคล็ดลับในการปฏิบัติตน ซึ่งจะได้รู้จักกันดังต่อไปนี้
- Translation
คือการแปลรหัสให้เข้าใจตรงกัน
ผู้ใช้ภาษาจะต้องมีการพัฒนาและต่อยอดภาษานั้นๆ ได้ ทำให้เราเก่งขึ้น แลดูมีความรู้มากยิ่งขึ้น
- Vision
คือ
เป้าหมายของตัวเราในช่วงเวลาระยะหนึ่ง หรือเรียกว่า “วิสัยทัศน์” นั่นเอง ซึ่งมีความสำคัญดังนี้
1.
ช่วยกำหนดทิศทางและเป้าหมายของตัวเราเอง
2. สื่อสารให้เราทราบว่า จะทำให้มุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างไร
3.
ช่วยกระตุ้นให้มีความตระหนัก ผูกพัน และมุ่งมั่นปฏิบัติ
4.
สื่อสารให้เราทราบถึงบทบาทและส่วนร่วมในการผลักดันตัวเองให้บรรลุเป้าหมาย
- ประสาทสัมผัสทั้ง
5
ฝึกการใช้เพื่อทำให้การพัฒนาทักษะทางภาษาของเราลื่นไหลได้ยิ่งขึ้น
เช่น
1.
ฝึกการมอง อ่านตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ฝึกอ่านตำราต่างๆ
2. ฝึกการฟังเสียง ฟังเสียงภาษาอังกฤษ หัดฟังการเน้นคำต่างๆ
3.
ฝึกการดมกลิ่น ทายว่าภาษานั้นเป็นอย่างไรบ้าง
4.
ฝึกการใช้ปาก ฝึกพูด ฝึกออกเสียง
5. ฝึกการสัมผัส ฝึกแสดงละครภาษาอังกฤษ
หัดใช้ท่าทางประกอบการพูดเพื่อให้ชาวต่างชาติเข้าใจมากยิ่งขึ้น
- Metacognition
มีการกำกับตนเองอยู่ตลอดเวลา
มีสติ ไม่วอกแวก เก่งในด้านต่างๆ มีสมาธิในการเรียน ตั้งใจเรียน
ทำให้เราเป็นคนที่มีความมั่นใจ และเชี่ยวชาญทางด้านภาษามากยิ่งขึ้น
- โนโมโฟเบีย (Nomophobia)
มาจากคำว่า "no
mobile phone phobia" เป็นศัพท์ที่ YouGov องค์การวิจัยของสหราชอาณาจักร บัญญัติขึ้นเมื่อปี 2008
เพื่อใช้เรียกอาการที่เกิดจากความหวาดกลัวจากการขาดโทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อสื่อสาร
และจัดเป็นโรคจิตเวชประเภทหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มวิตกกังวล
- idiot
ไม่เป็นคนโง่
มีสติอยู่ตลอดเวลา กล้าทำ กล้าตอบ มีความมั่นใจในตนเอง และเราก็จะเก่งขึ้นเอง
- Stimulus
Respond
เป็นการกระตุ้นการโต้ตอบระหว่างกัน
- Group Work
การทำงานเป็นกลุ่ม
- Pair Work
การทำงานคู่
- Individual
Work
การทำงานมากกว่า 3 คน
- Interaction
การปฏิสัมพันธ์ คือ
การสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับระบบ
โดยที่ระบบมีส่วนต่อประสานเป็นทั้งส่วนที่ผู้ใช้สนใจและเป็นเหมือนคน
สนทนา/ตัวกลางระหว่างผู้ใช้และระบบ ดังนั้นการสื่อสารระหว่างผู้ใช้และระบบมีความหมายคือเป็นภาษาทางอ้อม
(Indirect language) แทนที่จะเป็นการกระทำโดยตรง (Direct
action)
- Classroom
Action Research : CAR
การวิจัยในชั้นเรียน คือ
กิจกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างครูและนักเรียน และบทบาทครู คือ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรให้กับนักเรียนทั้งชั้น
- soundly
ความสมเหตุสมผล
เราเป็นนักศึกษาจะต้องมีความสมเหตุสมผล พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
- อริยสัจ
4
มีความจริงอยู่ 4
ประการคือ
1.
ทุกข์
คือ
การมีอยู่ของทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ และตายล้วนเป็นทุกข์ ความยึดมั่นถือมั่น
ความยึดติดในขันธ์ทั้ง 5 ล้วนเป็นทุกข์
2.
สมุทัย
คือ
เหตุแห่งทุกข์ เพราะอวิชา ผู้คนจึงไม่สามารถเห็นความจริงของชีวิต พวกเขาตกอยู่ในเปลวเพลิงแห่งตัณหา
3.
นิโรธ
คือ
ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตนำไปสู่การดับความเศร้าโศกทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน
4.
มรรค
คือ
หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันได้แก่ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อ
เลี้ยงด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติความมีสตินำไปสู่สมาธิและปัญญาซึ่งจะปลดปล่อย
ให้พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวลอันจะนำไปสู่ความศานติและ ความเบิกบาน
พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตานำทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้
-
นโยบายของรัฐบาล
เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่โกงกินภาษีประเทศชาติจากน้ำมันของไทย
- Logistic
ประเทศไทยเป็นหนึ่ง
ในเรื่องของการขนส่งของทวีปเอเชียแห่งนี้ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้ว
เพียงแต่ต้องเร่งพัฒนาให้มากขึ้นกว่านี้
สำหรับใจความสำคัญหลัก (Theme) 3 อย่างที่กล่าวมาก็คือ
1. วิธีการเรียนการสอนที่ถูกต้อง
2. หลักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
3. ความรู้รอบตัวในประเทศไทย
คุณธรรม จริยธรรม ของนักศึกษา ทำให้เราเป็นคนดี
มีวินัย เป็นที่รักของทุกคน เพราะคุณธรรมจะสอนคน สอนเราให้เป็นคนที่มีความรัก
ความเมตตา สงสารคนอื่น สามารถดำรงชีวิตในสังคมอยู่ได้อย่างมีความสุข
เพียงแค่หลักคุณธรรม จริยธรรม
ไม่อาจเพียงพอต่อการเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในปัจจุบันได้ ดังนั้น
เราต้องมีความรู้ ความรับผิดชอบในการเรียนอีกด้วย ศึกษาเนื้อหา
หาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา เช่น
Conditional sentences หรือที่หลายคนรู้จักในนาม
if-clause คือ ประโยคเงื่อนไข ประกอบด้วยอนุประโยค
(ประโยคย่อย) สองประโยค ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า If กับอีกประโยคหนึ่งมีหน้าตาเหมือนประโยคสมบูรณ์ทั่วไป
สังเกตว่า อนุประโยคสองประโยคนี้สลับที่กันได้ จะยกประโยคไหนขึ้นต้นก็ได้
แล้วแต่การเน้นและความหมาย
1. ZERO
Conditional Sentences
- ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง
- ใช้สำหรับพูดถึงความจริงทั่วไป
โดยใช้ present
simple ในอนุประโยคทั้งสองประโยค
If + present
simple, …. present simple. (มักจะเขียนว่า If + subject +
V1, subject + V1)
- ใช้พูดถึงกรณีที่ถ้าเกิดสิ่งหนึ่ง
ต้องเกิดอีกสิ่งหนึ่งเสมอ
เช่น
If
water reaches 100 degrees, it boils.
เมื่ออุณหภูมิน้ำสูงเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส น้ำจะเดือดเสมอ
- เราจะใช้คำว่า
when
(เมื่อ) แทน if ก็ได้และจะใช้พูดถึงเรื่องจริงทั่วๆไป
2. FIRST
Conditional Sentences
- ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
- ใช้สำหรับพูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น
โดยใช้ If + present
simple แล้วตามด้วย future simple
if + present
simple, … will + infinitive
(มักจะเขียนว่า If + subject + V1, subject + will/be going to +
V1)
- ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจเป็นไปได้
หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น
If it rains,
I won’t go to the park.
ถ้าฝนตก
ฉันจะไม่ไปสวนสาธารณะ
3. SECOND
Conditional Sentences
- ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต
- จะใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
เช่น
Second
conditional: If she studied harder, she would pass the exam.
ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคงสอบผ่าน
(แต่ผู้พูดไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ คือ คิดว่าเธอคงไม่ตั้งใจมากขึ้น
และเธอคงสอบไม่ผ่าน)
- ใช้ If + past
simple คู่กับ would + infinitive
if + past
simple, …would + infinitive
(สังเกต ว่าอนุประโยคที่ต่อหลัง if ถ้าคำกิริยาเป็น verb
to be จะใช้ were ได้กับประธานทุกตัว เช่น If
I were you… ถ้าฉันเป็นเธอ… แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้)
– ใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตแต่อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่น
If I won the
lottery, I would buy a big house.
ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่
(ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่หรอก)
– ใช้พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย ไม่จริงเลย เช่น
If I had his
number, I would call him.
ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา
(แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)
4. THIRD
Conditional Sentences
- ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต
- ใช้ If + past
perfect (subject + had + V3) คู่กับ would have + V3
if + past
perfect, …would + have + past participle
- ประโยคแบบนี้ใช้พูดเกี่ยวกับอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ว่าถ้าเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไร
If she had
studied, she would have passed the exam.
ถ้าเขาอ่านหนังสือ
เขาคงสอบผ่านไปแล้ว (ซึ่งจริงๆผู้พูดรู้ว่าไม่ได้อ่านและสอบตก)
5. MIXED
Conditional Sentences
- มีการนำ
conditional
sentences สองแบบมาผสมกันอีกด้วย โดยส่วนมากใช้เวลาพูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นความจริงในอดีตที่มีความสัมพันธ์กับ
ปัจจุบัน เช่น
She would be
a rich widow now if she’d married him.
เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้าเธอแต่งงานกับเขา
(ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา
ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)
สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มพูนทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษได้อีกมาก
เรื่องอื่นๆ ก็เช่นกัน เราสามารถศึกษาหาความรู้ได้ในทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดมหาวิทยาลัย
คอมพิวเตอร์ สามารถหาความรู้ได้ทั้งหมด
นักศึกษาที่ดี ควรเพียบพร้อมไปด้วยความรู้
ความเข้าใจ ในเนื้อหาวิชาเรียนเป็นอย่างดี ที่ขาดไม่ได้ก็คือ
ความพยายามทำให้คนเราประสบผลสำเร็จได้อีกด้วย สิ่งสำคัญ คือ คุณธรรม
จริยธรรมที่ต้องมีในตัวทุกคน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตเราเจริญขึ้นๆ
ทำให้เราเป็นคนดี มีวินัย ใฝ่วิชา มีความรู้ ความสามารถ
พร้อมที่จะไปเป็นครูมืออาชีพได้ในทุกๆ เวลา
http://health.kapook.com/view87257.html
http://www.oxbridge.in.th/grammar-tips/if-clauses
http://www.learntripitaka.com/scruple/ariya4.html
http://www.dilbilimarastirmalari.com/tag/ภาษาอังกฤษ/
http://www.sobkroo.com/img_news/file/A7663746.doc/
https://sites.google.com/site/jinymayong/thvsti/thvsti-kar-reiyn-ru/
http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/2755-00/
https://sites.google.com/site/interactionhci/kar-ptisamphanth-interaction/
http://www.cpl-consult.com/Balanced%20scorecard/Vision_mission_value.html
SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU
No comments:
Post a Comment