▂▃▅▆█♫ WELCOME to TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.♫◤ยินดีต้อนรับเข้าสู่ TRANSLATION™ (1103301) : การแปล 1.◥ ...♥Miss You So Much♥ ...█▆▅▃▂

Monday, August 31, 2015

Learning Log : 25th August, 2015.

SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU


Learning Log
 25th August, 2015.


          ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสำคัญและภาษาสากลในการสื่อสารและใช้เป็นสื่อกลางในทุกประเทศบนโลกใบนี้ นั่นก็หมายถึงว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียวที่จะใช้เป็นตัวกลางในการกระทำสิ่งต่างๆ ประเทศไทยก็เช่นกันต้องฝึกภาษาอังกฤษให้มากๆ เพื่อรับมือกับ ASEAN ที่กำลังมาถึงอยู่ในขณะนี้เอง เราจึงต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ เสมอๆ ตลอดเวลา ไม่พลาดกับภาษา และรอบๆตัวของเรา ก็คือ ข่าว ซึ่งมีความสำคัญกับการศึกษาของเรา เพราะทำให้เราทราบถึงความเคลื่อนไหว สภาวะ เหตุการณ์บ้านเมือง ทำให้เราเป็นคนทันโลกทันเหตุการณ์ ที่สำคัญคือเรายังได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวอีกด้วย
          ข่าว ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายว่า คำบอกเล่าเรื่องราวซึ่งโดยปรกติมักเป็นเรื่องเกิดใหม่หรือเป็นที่สนใจ, คำบอกกล่าว, คำเล่าลือ คำว่า ข่าว ถ้ามองในแง่ของการสื่อสารข้อมูล ก็จัดว่าเป็นข้อมูลชนิดหนึ่งที่จะต้องมี ผู้ที่ทำให้เกิดข่าว ผู้ส่งข่าว สื่อกลางที่ใช้ในการส่งข่าว และผู้รับข่าว ในระหว่างสงครามข่าวส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลของฝ่ายตนเอง และฝ่ายตรงข้าม เริ่มแรกก็คงเป็นการบอกต่อๆ กันมา เหมือนกับการกระจายข่าวลือ แต่การส่งก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เนื้อเรื่องของข่าวถูกเปลี่ยนออกไป ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษขึ้น ก็มีการบันทึกลงในกระดาษ ปัจจุบันโลกของเราเป็นยุคของการสื่อสารข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ มีการใช้อินเทอร์เน็ตส่งข่าว ดูโทรทัศน์ และมีการใช้อีเมล์ในการส่งข่าวอีกด้วย
          แหล่งที่จะนำเสนอข่าวได้มีทั้ง คำบอกเล่า หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ฯลฯ ที่สำคัญ และสะดวกที่สุดก็คือ เว็บไซต์ที่นำเสนอข่าว มีหลากหลายเว็บไซต์มาก เราสามารถเลือกที่จะบริโภคได้ตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ เป็นข่าวการเมือง บันเทิง เทคโนโลยี อาชญากรรม มีทุกรูปแบบให้เราได้อ่านกัน สำหรับเว็บไซต์ที่เปิดอ่านง่าย สะดวกที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บไซต์ของข่าวเกือบทั้งหมด
          เว็บไซต์ดังระดับโลกที่รวบรวมคลิปบรรยายของผู้มีชื่อเสียงเอาไว้มากมาย แต่ละคลิปจะมีซับไตเติ้ลให้ด้วยสำหรับคนที่เก่งแล้วแต่อยากฝึกทักษะการฟังเพิ่ม จะฟังแบบไม่ดูซับไตเติ้ลเลยก็ได้ แต่ถ้าฟังไม่ออกบางคำก็สามารถดูซ้ำอีกรอบโดยเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษตามไปด้วย ความพิเศษสุดๆ คือบางคลิปมีทั้งซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษและภาษาไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่เริ่มหัดภาษาด้วยตัวเอง ซึ่งผมแนะนำว่ารอบแรกควรเปิดแค่ซับอังกฤษไปก่อน ดูว่าเราจับใจความได้มากน้อยแค่ไหน แล้วค่อยเปิดซับไทยเพื่อเช็คความถูกต้อง สำหรับเว็บไซต์นั้นตัวอย่างเช่น



engVid.com
เรียนภาษาอังกฤษฟรีมีแบบฝึกหัดให้ลองทำต้อง engVid ปัจจุบันเว็บนี้มีอาจารย์ประจำอยู่ 10 ท่าน และมีหัวข้อน่าสนใจที่เหมาะกับนักเรียนไทยมากมาย เช่น แกรมม่า คำศัพท์ ศัพท์สแลง การพูด การเขียน รวมถึงแนะนำการทำข้อสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC ด้วย แต่ละคลิปก็สั้นๆ ไม่ยาวมาก มีความยากแบ่งออกเป็น 3 เลเวล คือ Beginner, Intermediate และ Advanced เว็บนี้อาจารย์จะมายืนสอนและเขียนลงบนกระดานด้วย ทำให้ผู้เรียนสามารถติดตามเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น
BBC.co.uk
นอกจาก BBC จะเป็นสำนักข่าวชื่อดังที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีคอลัมน์ฝึกภาษาอังกฤษให้ฟรีๆ เว็บนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการฝึกภาษาสำเนียงอังกฤษ โดยบทเรียนต่างๆ ก็มีตั้งแต่เรื่องแกรมม่าไปจนถึงการใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน ซึ่งเราสามารถโหลดได้ทั้งไฟล์เสียง (Audio) และไฟล์ตัวหนังสือ (Text) ของแต่ละบทเรียนมาเก็บไว้ทวนซ้ำได้ด้วย
VOA.com
ย่อมาจาก Voice of America เป็นเว็บภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน คลิปของ VOA มีหลากหลาย ตั้งแต่ข่าวทั่วๆ ไป รายการดนตรี รายการวัฒนธรรม ฯลฯ ช่วงเทศกาลต่างๆ ก็จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบริบททางสังคมด้วย สามารถเลือกฟังและชมคลิปได้ตามความสนใจ ซึ่งเวลาจดจ่อกับสิ่งที่สนใจก็จะทำให้เรามีความกระตือรือร้นอยากจะเรียนรู้มากขึ้น เว็บนี้เหมาะมากสำหรับคนยังมีพื้นฐานไม่ค่อยแน่น เพราะแต่ละคลิปจะพูดช้าเป็นพิเศษและใช้คำศัพท์พื้นฐานที่ไม่ยากจนเกินไป ไม่เหมือนพวกเว็บข่าวต่างประเทศที่มักใช้ศัพท์เฉพาะทางเยอะ นอกจากนี้ยังสามารถโหลดไฟล์เสียงมาเก็บไว้ฝึกฟังบ่อยๆ หรือจะโหลดแอพพลิเคชั่น VOA มาติดสมาร์ทโฟนไว้ก็ได้
BangkokPost.com
เว็บของประเทศไทย ข้อดีของเว็บนี้คือเราจะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านข่าวในประเทศไทย ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมโยงบริบทต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และมีหมวด Easy News คือนำข่าวมาเรียบเรียงใหม่โดยใช้คำศัพท์พื้นฐาน เหมาะแก่ผู้เรียนระดับเริ่มต้นมาก ตอนท้ายของข่าวก็ยังมีสรุปรวมคำศัพท์ที่น่าสนใจพร้อมคำอธิบายศัพท์ภาษาอังกฤษและคำแปลภาษาไทยไว้ให้ด้วย อีกทั้งยังมีการสอนภาษาอังกฤษผ่านเพลงฮิต
          เมื่อเราได้ฝึกอ่านภาษาอังกฤษจากเว็บไซต์เหล่านี้ สิ่งที่เราพลาดไปไม่ได้ก็คือ คำศัพท์นั่นเองซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการเรียนของเรา สำหรับเทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นมีหลักการไม่ยากไม่ง่าย แต่เราจะเน้นความขยันและความรับผิดชอบเป็นหลัก วิธีการง่ายๆ ได้แก่
- จัดศัพท์เป็นหมวดหมู่ เช่น คำที่มีความสัมพันธ์กัน หรือมีความหมายตรงข้ามกัน จะช่วยให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น อาจจดบันทึกใส่สมุดที่พกพาได้ เพื่อความสะดวกเมื่อต้องหยิบมาท่องในเวลาว่าง
- นำศัพท์มาใช้บ่อย ๆทำให้เกิดความเคยชิน จะจำได้แม่นยำขึ้น จากนั้นลองแต่งประโยคจากคำเหล่านั้น เพื่อฝึกการเรียบเรียงประโยค

- จำศัพท์จากการออกเสียง อาทิ คำที่ออกเสียงคล้าย ๆ กัน นอกจากจะช่วยให้นึกถึงความหมายได้ง่ายแล้ว ยังได้รู้หลักการออกเสียงที่ถูกต้อง
- ท่องศัพท์ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10 คำ และหมั่นทบทวนบ่อย ๆ ให้คุ้นเคย หากมีโอกาสสนทนากับคนพูดภาษาอังกฤษ ควรลองนำศัพท์ไปใช้ในสถานการณ์จริง
- ฝึกฟัง-อ่านภาษาอังกฤษจากข่าวหรือหนังสือต่าง ๆ แล้วสังเกตหาศัพท์ที่เคยท่อง จะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวโดยรวมของเรื่องที่อ่านได้เร็วขึ้น
หลักการจำที่สำคัญอีกประการ คงต้องอยู่ที่ความขยันและความสม่ำเสมอในการท่อง เพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ได้ผล
ทุกวันนี้ภาษาอังกฤษแทบจะไม่ใช่ความสามารถพิเศษอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นทักษะจำเป็นที่ทุกคนควรจะต้องมี ไม่ว่าจะเพื่อการเปิดโลกทัศน์ หรือ ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็ตาม หากมีโอกาสและความพร้อม ผมขอสนับสนุนให้ทุกคนเรียนภาษามาเรียนภาษาเพิ่มเติมกันครับ จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง ลงคอร์สในเมืองไทย หรือถ้าไม่ติดขัดอะไรการไปเรียนภาษาที่เมืองนอกก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว
http://pantip.com/topic/30713919
http://www.umarin.com/board/index.php?topic=456.0
http://www.hotcourses.in.th/study-abroad-info/applying-to-university/5-websites-for-practice-english/
SUKSAN CHAIRAKSA NO.5681114011
ENGLISH MAJOR ’01, FACULTY OF EDUCATION.
NSTRU

No comments:

Post a Comment